ผู้จัดการและผู้นำ ต้องมีทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับจังหวะและเวลา
29 มีนาคม 2566 - เวลาอ่าน 2 นาทีผู้จัดการ (Managers) และผู้นำ (Leaders) ตามภาษาก็มีความหมายที่แตกต่างกันแล้ว ผู้จัดการ ต้องการจัดการให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามปกติ ตามที่ควรจะเป็น ประสานทุกอย่างให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย ตามเป้าหมายของหน่วยงานหรือทีมได้ตั้งเอาไว้ ขณะที่ผู้นำมีหน้าที่ในการนำ นำคนในทีม คนในองค์กร ไปสู่ความมุ่งหมายที่ต้องการ ในบทความนี้จะอภิปรายด้านต่างๆ ที่ทำให้ผู้นำและผู้จัดการแตกต่างกัน
รักษาสถานะ ผู้จัดการต้องการที่จะรักษาสถานะปกติ ทำตามเป้าหมายที่ได้รับมา ผู้จัดการอาจจะตั้งเป้าว่า ยอดขายที่ทำได้ต้องเติบโตจากปีที่แล้วอย่างน้อย 5% และพยายามผลักดันให้ทุกคนบรรลุเป้าหมาย ผ่านการให้คุณให้โทษแก่คนในทีม เน้นให้ทุกคนทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อให้สถานะของทีมตนไปได้ดี
เปลี่ยนแปลง ผู้นำต้องการที่จะเปลี่ยนให้คนอื่นเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ได้รับผลที่แตกต่างจากเดิม เพื่อให้ไปถึงความมุ่งหมายที่ตนเองใฝ่ฝันเอาไว้ ที่องค์กรไม่เคยทำได้ ผู้นำอาจจะตั้งเป้าหมายมากกว่ากำไรของบริษัทในปลายปี ผู้นำจะมองถึงการชนะในระยะยาว เช่น ผู้นำอาจจะตั้งเป้าหมายว่าต้องให้ผู้บริโภคนึกถึงสินค้าขององค์กรเป็นอันดับแรก ค้นหาลูกค้าใหม่ ค้นหาความต้องการใหม่ที่สินค้าของตนสามารถตอบสนองได้ ผู้นำจะเน้นสื่อสาร เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพตรงกัน ว่าเป้าหมายไปถึงได้ บรรลุได้
ให้คุณให้โทษ เครื่องมือที่ใช้ให้ทีมบรรลุเป้าหมายของผู้นำและผู้จัดการแตกต่างกัน ผู้จัดการจะมองว่าคนในทีมมาทำงานตามหน้าที่ของตนเอง ผู้จัดการจะมองว่าการประเมินพนักงาน การให้ขึ้นเงินเดือน ลดเงินเดือน ลงโทษ ไล่ออก เป็นอำนาจของตนที่มีต่อผู้ใต้บังคับบัญชา ผู้จัดการจะมองหาคนมาเติมตำแหน่งที่ว่าง เพื่อให้งานที่ตนได้รับมอบหมายประสบความสำเร็จตามที่ตั้งไว้
สร้างแรงบันดาลใจ ขณะที่ผู้นำต้องการให้คนในทีมก้าวข้ามการมองว่าตนมาทำงานเพื่อเงินเดือน คนในทีมมาทำอะไรสักอย่างที่ยิ่งใหญ่ คนในทีมมาสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างในองค์กร ผู้นำจะเน้นสื่อสาร เน้นไปคุยกับคนในทีม เพื่อจูงใจให้คนในทีมทำตามวิสัยทัศน์ที่ผู้นำต้องการ
ใส่ใจระบบ ผู้จัดการจะมองว่าคนหนึ่งสามารถทำงานตามหน้าที่ที่รับผิดชอบได้หรือไม่ สามารถสอนงานให้รับผิดชอบตำแหน่งที่ต้องการได้หรือไม่ เพื่อให้ระบบงานเป็นไปได้อย่างมีระเบียบเรียบร้อย
ใส่ใจพนักงาน ผู้นำต้องใส่ใจพนักงานรายบุคคล เพราะต้องการให้พนักงานทุกคนมีเป้าหมายร่วมกัน เมื่อต้องการให้พนักงานทำมากกว่าที่ตนทำในปัจจุบัน ต้องการดึงศักยภาพออกมา ผู้นำจึงใส่ใจกับการพัฒนาตนเองของคนในทีม ต้องการให้คนในทีมเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในองค์กร
แน่นอนว่าในองค์กรหนึ่ง คนระดับหัวหน้าขึ้นไปทุกคนไม่สามารถเป็นผู้นำทั้งหมดได้ งานบางอย่างก็ต้องการความแม่นยำ การสอดประสานให้ทุกคนทำงานด้วยกันได้ งานแบบนี้เหมาะสมกับผู้จัดการที่ดี ที่เก่ง แต่หากทุกคนเป็นผู้จัดการ ไม่มีใครนำ องค์กรนี้อาจจะเดินต่อไปได้ แต่จะไม่มีทิศทาง คนอาจจะมองไม่เห็นอนาคตว่า บริษัทกำลังเดินไปทิศทางไหน ส่งผลให้พนักงานทำงานตามกิจวัตร ทำงานเพื่อรับเงินเดือน ไม่ได้รู้สึกว่างานของตนมีความหมายอะไร
อย่างไรก็ตาม การแบ่งว่าตำแหน่งอะไรต้องการผู้นำหรือผู้จัดการเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นความคิดที่ง่ายเกินไป หัวหน้าของทีมต้องใช้ทั้งบทบาทผู้นำและผู้จัดการตามจังหวะเวลา เช่น ยามปกติต้องการหัวหน้าในบทบาทผู้จัดการ ที่ต้องดูความเรียบร้อย พยายามให้ระบบดำเนินไปได้ดี แต่เมื่อยามมีวิกฤต มีปัญหา ย่อมต้องการหัวหน้าในบทบาทผู้นำ ที่ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกทีมทำงานร่วมกันได้ สร้างความเชื่อให้ทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ หรือในยามที่ต้องการให้องค์กรก้าวกระโดด หัวหน้าจำเป็นต้องใช้บทบาทผู้นำ ในการพูดคุยกับคนในทีม ในการอธิบายวิสัยทัศน์ ความฝันของตนเอง เพื่อให้ทุกคนพร้อมที่จะก้าวกระโดดไปด้วยกัน
ดังนั้น เพื่อให้ได้ผู้จัดการที่ดี ให้ได้ผู้นำที่ดี ในตำแหน่งระดับหัวหน้างาน Excel Solution ที่พัฒนา MindAnalytica สามารถช่วยองค์กรในการประเมินบุคลากรของตน ว่าบุคลากรระดับหัวหน้ามีแนวโน้มแสดงพฤติกรรมแบบผู้นำหรือผู้จัดการมากน้อยเพียงใด พนักงานบางคนเหมาะสมเป็นผู้นำแต่ไม่เหมาะสมกับผู้จัดการ บางคนเหมาะสมเป็นผู้จัดการแต่ไม่เหมาะสมเป็นผู้นำ บางคนเหมาะสมทั้งสองแบบ! เครื่องมือนี้จะช่วยชี้ช่องว่าหัวหน้างานของคุณในปัจจุบันมีจุดต้องพัฒนาอย่างไร หรือจะคัดเลือกคนที่มีลักษณะผู้นำและผู้จัดการมาลงตำแหน่งหัวหน้าต่างๆ ที่เหมาะสมอย่างไร Excel Solution นอกจากจะประเมินลักษณะผู้นำและผู้จัดการแล้ว ชุดเครื่องมือนี้ยังประเมินการทำงานเป็นทีม และตรวจสอบว่าหัวหน้าเข้ากันได้กับคนในทีมหรือองค์กรหรือไม่อีกด้วย