องค์กรที่ผู้บริหารเปิดเผยว่าเป็น LGBTQIA+สัมพันธ์กับมูลค่าและผลกำไรขององค์กรที่สูง
5 มิถุนายน 2566 - เวลาอ่าน 1 นาทีข้อมูลจากการสำรวจในปี 2563 เปิดเผยว่ามากกว่า 90% ขององค์กรทั่วโลกมีตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงเป็นเพศชาย ในขณะตัวเลขของผู้บริหารระดับสูงที่เป็นเพศหญิงมีน้อยกว่า 10% และยิ่งไปกว่านั้นผู้บริหารที่เป็น LGBTQIA+ อย่างเปิดเผยยิ่งมีจำนวนน้อยไปกว่านั้น แม้ว่าในปัจจุบันการรณรงค์ความเสมอภาคทั้งในเรื่องความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศและเชื้อชาติ แต่ผู้ที่ดำรงตำแหน่งผู้บริหารเกือบทั้งหมดยังคงเป็นเพศชาย บทความนี้อาจไม่ได้มีจุดมุ่งหมายในการให้รายละเอียดถึงสาเหตุที่ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงจึงเป็นเพศชายส่วนใหญ่ แต่จะเป็นการเสนอมุมมองงานผลการวิจัยที่ศึกษาองค์กรที่มีผู้บริหารระดับสูงเป็น LGBTQIA+ อย่างเปิดเผยเป็นอย่างไร
งานวิจัยของ Lourenco และคณะในปี 2564 ได้เปรียบเทียบระหว่างองค์กรที่มีผู้บริหารเป็น LGBTQIA+ อย่างเปิดเผย และองค์กรที่ไม่มีว่าแตกต่างการอย่างไร โดยใช้วิธีการดึงข้อมูลจากวารสาร Outstanding และ Financial Times ที่มีรายชื่อผู้นำ LGBT 100 คนออกมา จากนั้นจึงนำ 100 องค์กรที่ผู้บริหารเหล่านี้สังกัดอยู่ไปเปรียบเทียบกับองค์กรที่ใกล้เคียงกัน ด้วยเกณฑ์ภายในประเทศเดียวกันและขนาดองค์กรระดับเดียวกัน ผลพบว่าองค์กรที่มีผู้บริหารระดับสูงเป็น LGBTQIA+ อย่างเปิดเผยมีมูลค่าองค์กรสูงกว่า และมีผลกำไรขององค์กรดีกว่า
ผู้วิจัยได้อธิบายเหตุผลว่า สาเหตุที่องค์กรที่มีผู้บริหารระดับสูงเป็น LGBTQIA+ อย่างเปิดเผยจึงมีผลงานขององค์กรที่ดีกว่า เนื่องจากองค์กรเหล่านี้รับรู้ เข้าใจ ความหลากหลายของบุคคลได้ดีกว่า ความหลากหลายหรือการไม่มีอคติต่อความแตกต่างเหล่านี้ส่งผลให้พนักงานมีความผูกพันต่อองค์กร และยังคงทำงานเพื่อองค์กรต่อไป นอกจากนี้ องค์กรที่หลอมรวมความแตกต่างส่งผลต่อการมีภาพลักษณ์ที่ดีต่อสาธารณะ นำไปสู่การสนับสนุนจากลูกค้าต่อองค์กรดังกล่าว โดยสรุป การที่ผู้บริหาร LGBTQIA+ เข้าใจความหลากหลายของพนักงานส่งผลให้พนักงานทำเพื่อองค์กรอย่างแท้จริง จึงได้กลับมาซึ่งชื่อเสียงและผลกำไรขององค์กร
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ไม่ได้ใช้วิธีการศึกษาความสัมพันธืเชิงสาเหตุที่ผู้บริหารระดับสูงที่เป็น LGBTQIA+ อย่างเปิดเผยเป็นสาเหตุให้องค์กรมีมูลค่าและรายได้สูง จึงอาจเป็นไปได้ว่าที่องค์กรที่เข้าใจเรื่องความหลากหลายเป็นทุนเดิมอยู่ก่อนหน้านั้นเป็นสาเหตุร่วมที่ทำให้มีผู้บริหารระดับสูงเป็น LGBTQIA+ อย่างเปิดเผย ดังนั้นความเข้าใจเรื่องความหลากหลายภายในองค์กรจึงเป็นสาเหตุทำให้องค์กรมีผลงานที่ดีด้วย จากสาเหตุร่วมนี้จึงอาจทำให้เห็นว่าองค์กรที่มีผู้บริหารระดับสูงเป็น LGBTQIA+ จึงมีผลงานที่ดีกว่า